(14 มี.ค.64) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง อายุ 55 ปี เปิดเผยหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ดีใจที่ได้รับอิสรภาพแม้จะยังไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ และยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขกรมคุมประพฤติ แต่อย่างน้อยก็ยังได้ออกจากเรือนจำ
* ประวัติของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา
"ช่วงระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระยะเวลา 1 ปีกว่า การกินอยู่เป็นนอนไม่สบายมากนักแต่ก็พอจะปรับตัวได้ ก็มีความทุกข์บ้างแต่คดีก็ได้จบสิ้นเสียที กระทั่งช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีกระแสข่าวในเรือนจำบุรีรัมย์มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 จึงทำให้เกิดจลาจล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม จึงมีนโยบายจัดรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ต้องขัง"
นายสรยุทธ กล่าวอีกว่า หลังจากออกเรือนจำสิ่งแรกอยากจะทำคือ เดินทางไปไหว้รูปมารดา ส่วนการกลับมาจัดรายการข่าวนั้นจะขอใช้เวลาคิดสักระยะ เพราะตนว่างเว้นจากการทำข่าวมานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่มีคดีความ และปัจจุบันมีรายการข่าวมากมายต้องขอเวลาปรับตัวแต่ยืนยันว่า หากจะกลับมาทำหน้าที่พิธีกรข่าว จะยังคงอยู่ที่ช่อง 3 เหมือนเดิม
สำหรับโครงการพักโทษนั้น ส่วนตัวมองเป็น 2 แบบ คือ
1. เป็นผู้ต้องหาในคดีอุจกรรจ์ ขอทุกคนอย่าทำ เพราะถ้าเข้าเรือนจำไปแล้วจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะจะไม่ได้รับการอภัยโทษ
2. เป็นผู้ต้องหาเพราะทำผิดพลาด และต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำ แต่เมื่อต้องออกจากเรือนจำขอทุกคนอย่าอคติ และให้โอกาส ให้กลับสู่สังคม เพราะถ้าให้โอกาสเชื่อว่าจะเป็นพลังของสังคม แต่หากไม่ให้โอกาสจะทำให้เป็นภาระของสังคม
ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการให้โอกาสอีกครั้ง แต่เมื่อออกมาแล้วก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย
ในช่วงท้ายการแถลงข่าว นายสรยุทธ ได้โชว์รองเท้าที่เป็นการแกะลายด้วยมือ เป็นลายสโมสรลิเวอร์พูล จากเพื่อนนักโทษในเรือนจำที่ส่งให้ จึงขอนำกลับออกมาเป็นที่ระลึกด้วย
สำหรับนายสรยุทธได้รับการปล่อยตัวเเล้ว เมื่อช่วง 07.30 น.ที่ผ่านมา โดยมี ครอบครัว ญาติ น้องสาว มารอรับ จากนั้นรถยนต์ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นำตัว สรยุทธ สุทัศนะจินดา ขับออกมาจากเรือนจำและเปิดกระจกรถให้ สรยุทธ สุทัศนะจินดา นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง สักการะศาลพระภูมิหน้าเรือนจำ
จากนั้นได้นำตัวไปสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (อีเอ็ม) ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานครเขต 7 หลักสี่ อาคารไอทีสเเควร์ โดยจะต้องติดกำไลอีเอ็ม เป็นเวลา 14 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.64 - 20 พ.ค. 65 และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษคือในวันที่ 26 ก.ค.66 รวม 2 ปี 4 เดือน